วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

นางสงกรานต์ กิมิทาเทวี ประจำปี 2555

นางสงกรานต์ กิมิทาเทวี ประจำปี 2555
เนื้อหา บล็อก :
นางสงกรานต์ กิมิทาเทวี ประจำปี 2555
 
ปีมะโรง จัตวาศก จันทรคติเป็น อธิกมาส ปกติวาร สุริยคติเป็น อธิกสุรทิน วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันศุกร์ที่ 13 เมษายน เวลา 19.46.12 น. ตรงกับเวลา 20.04.12 น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)
…..วันเถลิงศก ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน เวลา 23.43.48น. ตรงกับเวลา 0.01.48น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)
…..ได้ฤกษ์เผยชื่อ นางสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกประกาศ ว่า นางสงกรานต์ประจำปีนี้คือ นางกิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์ (กระบือ) เป็นพาหนะ
…..โดยมีคำทำนาย ของนางสงกรานต์ปีนี้ว่า จะมีสงครามรุนแรง พายุุและลม โหมเข้าใส่ แนะแนวให้ระวังมากเป็นพิเศษ…
….. เกณฑ์ พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า
….. เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย (ธาตุลม) ปริมาณน้ำ จะมีมากพอประมาณ ส่วนทางด้านลมนั้น จะโหมแรงมากเป็นพิเศษ
….. เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะโรง นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า จะมีปริมาณฝนมาก ในช่วงต้นปี พอเข้าสู่ช่วงกลางปี จะกำลังพอดี เมื่อเข้าสู่ปลายปี ก็จะลดปริมาณน้อยลง
….. เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ แมงและตัวด้วง จะเข้าก่อกวน พืชผลในไร่นา ข้าวกล้า จะได้ผลเพียง 1 ส่วนเท่านั้น โดยจะมีส่วนเสียมากกว่า ถึง 5 ส่วน นอกจากนั้น ยังเกิดสงครามกลางเมือง ทั้งสงครามที่เกี่ยวกับไฟ การฆ่าฟันกัน อย่างไม่ปราณี บ้านเมืองจะฉิบหายม้อดไหม้ จนหมดสิ้น
ที่มา : Mthai News

นางสงกรานต์ กิมิทาเทวี ประจำปี 2555
ปีมะโรง จัตวาศก จันทรคติเป็น อธิกมาส ปกติวาร สุริยคติเป็น อธิกสุรทิน วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันศุกร์ที่ 13 เมษายน เวลา 19.46.12 น. ตรงกับเวลา 20.04.12 น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)
…..วันเถลิงศก ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน เวลา 23.43.48น. ตรงกับเวลา 0.01.48น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)
…..ได้ฤกษ์เผยชื่อ นางสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกประกาศ ว่า นางสงกรานต์ประจำปีนี้คือ นางกิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์ (กระบือ) เป็นพาหนะ
…..โดยมีคำทำนาย ของนางสงกรานต์ปีนี้ว่า จะมีสงครามรุนแรง พายุุและลม โหมเข้าใส่ แนะแนวให้ระวังมากเป็นพิเศษ
….. เกณฑ์ พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า
….. เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย (ธาตุลม) ปริมาณน้ำ จะมีมากพอประมาณ ส่วนทางด้านลมนั้น จะโหมแรงมากเป็นพิเศษ
….. เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะโรง นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า จะมีปริมาณฝนมาก ในช่วงต้นปี พอเข้าสู่ช่วงกลางปี จะกำลังพอดี เมื่อเข้าสู่ปลายปี ก็จะลดปริมาณน้อยลง
….. เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ แมงและตัวด้วง จะเข้าก่อกวน พืชผลในไร่นา ข้าวกล้า จะได้ผลเพียง 1 ส่วนเท่านั้น โดยจะมีส่วนเสียมากกว่า ถึง 5 ส่วน นอกจากนั้น ยังเกิดสงครามกลางเมือง ทั้งสงครามที่เกี่ยวกับไฟ การฆ่าฟันกัน อย่างไม่ปราณี บ้านเมืองจะฉิบหายม้อดไหม้ จนหมดสิ้น
ที่มา : Mthai News

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาเสพติด

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาเสพติด

1. ยาเสพติดให้โทษ คือ อะไร
ยาเสพติดให้โทษ ตามความหมายของ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2552 หมายถึง สารเคมีหรือวัตถุชนิดใดๆ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใดๆ แล้ว ทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มขนาดการเสพเรื่อยๆ มีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพทั้งร่างกาย และจิตใจอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา และสุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลง จนถึงขั้นเสียชีวิต
2. การใช้ยาเสพติดมีอันตรายอย่างไร
การใช้ยาเสพติดมีอันตรายต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
1. ทำลายสุขภาพให้ทรุดโทรม น้ำหนักลด ผิวคล้ำ ร่างกายซูบผอม
2. เป็นบุคคลไร้สมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ อารมณ์ไม่ปกติ เฉี่อยชา เกียจคร้าน
3. เสียบุคลิกภาพ ขาดความสนใจในตัวเอง มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
4. อาจประสบอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะการควบคุมทางกล้ามเนื้อและระบบประสาทบกพร่อง
5. เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย เพราะความต้านทานโรคน้อย ติดเชื้อง่าย

3. จะสังเกตุอาการผู้ติดยาเสพติดได้อย่างไร
ยาเสพติดเมื่อเกิดการเสพติดแล้ว จะมีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งทำให้ลักษณะและความประพฤติของผู้เสพเปลี่ยนไปจากเดิมที่อาจสังเกตพบได้ คือ
1. ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม
2. อารมณ์ฉุนเฉียว หรือเงียบขรึมผิดปกติ จึงมักพบผู้เสพติดชอบทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายผู้อื่นหรือในทางกลับกันบางคนอาจ ชอบแยกตัวอยู่คนเดียวและหนีออก จากพรรคพวกเพื่อนฝูง
3. ถ้าผู้เสพเป็นนักเรียน มักพบว่าผลการเรียนแย่ลง ถ้าเป็นคนทำงาน มักพบว่าประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหรือไม่ยอมทำงานเลย
4. ใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลา เพื่อปกปิดรอยเข็มที่ฉีดยาตรงท้องแขนด้านใน หรือรอยกรีดตรงต้นแขนด้านใน
5. ติดต่อกับเพื่อนแปลกๆ ใหม่ๆ ซึ่งมีพฤติกรรมผิดปกติ
6. ขอเงินจากผู้ปกครองเพิ่ม หรือยืมเงินจากเพื่อนฝูงเสมอ เพื่อนำไปซื้อยาเสพติด
7. ขโมย ฉกชิง วิ่งราว เพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติด
8. ผู้ติดยาเสพติดบางชนิด เช่น เฮโรอีน จะมีอาการอยากยา บางคนจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นลงแดง

4. จะสังเกตุอาการคนเมายาบ้าได้อย่างไร
ผู้ที่เสพยาบ้าเป็นประจำ จะส่งผลให้ผู้เสพมีระบบประสาทผิดปกติ เมื่อถึงจุดหนึ่งจะเกิดอาการหูแว่ว ประสาทหลอน หวาดระแวง จนเกิดความเครียด คิดว่าจะมีคนมาฆ่า หรือทำร้าย บางรายกลัวมากต้องหาอาวุธไว้ป้องกันตัว หรือคลุ้มคลั่งจับตัวประกัน ซึ่งอาจสังเกตอาการของคนเมายาบ้า ได้ดังนี้
1. อยู่ไม่สุข ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย
2. หวาดกลัว และระแวงอยู่ตลอดเวลา
3. สีหน้าเลื่อนลอยเหมือนคนไม่ได้นอนหลับพักผ่อน
4. เนื้อตัวสกปรก มอมแมม

5.ถ้าบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวของท่านติดยาเสพติดควรทำอย่างไร
โดยหลักการตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 แล้วผู้เสพยาเสพติดมีสภาพเป็นผู้ป่วยอย่างหนึ่งมิใช่อาชญากรปกติ การฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติดจึงสมควรกระทำให้กว้างขวาง
ถ้าบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวของท่านติดยาเสพติด ท่านสามารถช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้นได้ก่อนถูกจับกุมดำเนินคดี โดยขอรับคำปรึกษาจากสถานที่ให้คำปรึกษา และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ได้แก่ โรงพยาบาลของรัฐ เช่น รพ.ธัญญารักษ์, รพ.พระมงกุฏเกล้า, รพ.ตำรวจ, รพ.จุฬาลงกรณ์, รพ.ราชวิถี, รพ.ตากสิน, รพ.ทหารผ่านศึก , รพ.นพรัตน์ราชธานี เป็นต้น โรงพยาบาลประจำจังหวัดทุกจังหวัด และศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดต่างๆ ฯลฯ

6.หากผู้ปกครองปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานเสพยาเสพติดให้โทษผู้ปกครองมีความผิดหรือไม่
ผู้ปกครองมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ดูแลเอาใจใส่เด็กในความปกครองให้ประพฤติตนให้เหมาะสม หาก ผู้ปกครองรายใดไม่ดูแลเอาใจใส่ เป็นเหตุให้เด็กประพฤติ ตนไม่สมควร มีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เช่น เสพยาเสพติดให้โทษ เป็นต้น ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดถึงรับโทษจำคุกไม่เกิน 3เดือน หรือปรับไม่เกิน สามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ค้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 4,26,78 ประกอบกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ศ.2549 ลงวันที่ 8 ส.ค.49
ผู้ปกครองจึงไม่ควรสนับสนุนหรือยินยอมให้บุตรหลานของท่านเที่ยวเตร่ในสถาน ที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น สถานบริการกลางคืน สถานที่เสี่ยงภัยต่างๆ

7.ท่านหรือบุตรหลานของท่านไม่ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะได้หรือไม่ และมีโทษหรือไม่ อย่างไร
บุคคลใดมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าเสพยาเสพติด เจ้าพนักงานมีอำนาจตรวจหรือทดสอบ หรือสั่งให้บุคคลใดรับการตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดจากปัสสาวะได้ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 14 ทวิ ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ลง 11 ก.ค.43 เรื่องกำหนด หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการตรวจหรือทดสอบว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีสาร เสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม่
บุคคลใดไม่ยินยอมให้ตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดจากปัสสาวะ ต้องรับโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 16
ดังนั้นจึงควรระมัดระวังมิให้บุตรหลานของท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามสถานบริการต่างๆ โดยเด็ดขาด

8. สถานประกอบการประเภทใด ที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด และต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร
มีสถานประกอบการ 6 ประเภท ที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 13 ทวิ ประกอบ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ.2543) ณ วันที่ 16 ส.ค.43 เรื่องกำหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกันและ ปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ได้แก่
1. ปั๊มน้ำมัน
2. ปั๊มก๊าซ
3. สถานบริการต่างๆ
4. ที่พักอาศัยในเชิงพาณิชย์ ประเภท หอพัก อาคารชุด หรือเกสเฮ้าส์ ที่ให้ผู้อื่นเช่า
5. โต๊ะบิลเลียต หรือสนุกเกอร์ ที่เก็บค่าบริการจากผู้เล่น
6. โรงงาน
เจ้าของสถานประกอบการทั้ง 6 ประเภท มีหน้าที่ควบคุม สอดส่อง ดูแล ไม่ให้พนักงานหรือบุคคลภายนอกมามั่วสุมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดใน หรือบริเวณสถาน ประกอบการ และต้องจัดให้มีป้ายหรือประกาศเตือนเกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด หรืออัตราโทษตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 13 ทวิ ประกอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 ณ วันที่ 16 ส.ค.43 เรื่องกำหนดมาตรการ ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ
หากปล่อยปละละเลย หรือละเว้นไม่ติดป้ายหรือประกาศเตือนดังกล่าว อาจถูกปรับเป็นเงินหนึ่งหมื่นบาท หรือสามหมื่นบาท หรือห้าหมื่นบาท แล้วแต่กรณี ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 13 ตรี ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการตักเตือน การเปรียบเทียบปรับ และการปิดชั่วคราวสถานประกอบการหรือการพักใช้ใบอนุญาตประกอบการ พ.ศ.2545 ณ วันที่ 12 ธ.ค.45 ข้อ 17
9. หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ เจ้าของสถานประกอบการมีความรับผิดตามกฎหมายยาเสพติดหรือไม่ อย่างไร ถ้ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถาน ประกอบการทั้ง 6 ประเภท โดยเจ้าของสถานประกอบการไม่สามารถชี้แจงหรือพิสูจน์การใช้ความระมัดระวังได้ สถานประกอบการนั้นอาจถูกสั่งปิดชั่วคราวหรือพักใช้ใบอนุญาต มีกำหนด 7 วัน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 มาตรา 13 ตรี ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าด้วยการตักเตือนการ เปรียบเทียบปรับ และการปิดชั่วคราวสถานประกอบการหรือการพักใช้ใบอนุญาต ประกอบการ พ.ศ.2545 ณ วันที่ 12 ธ.ค.45 ข้อ 18

10. ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างไร
ถ้าท่านพบแหล่งจำหน่าย พักยา มั่วสุม หรือเสพยาเสพติด หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ท่านมีส่วนช่วยเหลือสังคมในการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติดได้ โดยแจ้งให้หน่วยราชการต่อไปนี้ทราบ
1. ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์     สำนักงานตำรวจแห่งชาติ     1194  ตู้ ป.ณ.1234 รองเมือง กรุงเทพฯ 10330
2. ศูนย์รับแจ้งเบาะแสยาเสพติด     กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด     1688   www.thaidrugpolice.com
3. ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด     สำนักงาน ป.ป.ส.     1386 ตู้ ป.ณ.123 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
4. ศูนย์รับแจ้งเหตุ กองบัญชาการตำรวจนครบาล

ขอบคุณ :
http://203.113.114.147/jm/index.php?option=com_content&view=article&id=10&Itemid=20

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

ศิลปะในการเป็นผู้บริหาร

ศิลปะในการเป็นผู้บริหาร
โดย... ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
มีหนังสือและองค์ความรู้มากมายที่พูดถึงเรื่องของ ผู้บริหาร มีทั้งนักวิชาการ ผู้ปฏิบัติจริง ทั้งต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งกระผมได้อ่าน ได้ศึกษา อาจสรุปได้เป็นประเด็นสำคัญๆดังนี้
1.ผู้บริหาร ต้องมีพันธะผูกพัน(Commitment) คือ ต้องมีความรับผิดชอบในคำพูด คำสัญญา การแสดงออก การกระทำ ต่อสิ่งที่ได้ทำไปหรือต่อบุคคลอื่น เช่น สัญญาว่าจะทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ ผู้บริหาร ก็ต้องพยายามทำให้เสร็จถึงแม้จะทำถึง เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 หรือรุ่งเช้าก็ต้องทำ
    2.ผู้บริหารที่ดี ต้องมีสติปัญญา และการตัดสินใจที่ถูกต้อง รวดเร็ว เด็ดขาด
แน่นอน การตัดสินใจย่อมต้องมีการผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าผู้บริหาร กลัวการที่จะตัดสินใจลงไปแล้ว อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ องค์กร หน่วยงาน รวมถึงประเทศชาติ ก็ได้ถ้าผู้บริหารคนนั้นบริหารประเทศ สำหรับหลักการตัดสินใจที่ดี เราควรแสวงหาข้อมูลให้มากที่สุดในเรื่องที่เราต้องตัดสินใจแล้ว มองอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ข้อมูล หาสาเหตุของปัญหา แนวทางแก้ปัญหาและจึงตัดสินใจ เมื่อ ผู้บริหารตัดสินใจผิดพลาดก็ควรรับผิดชอบ
                3.ผู้บริหารที่ดี ต้องสร้างความศรัทธา แก่ลูกน้อง ลูกค้า เจ้าของกิจการ รวมทั้งผู้พบเห็น ภาพพจน์(Image) ของผู้บริหารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ การพัฒนาบุคลิกภาพ การพูดจา การแต่งกาย และการสร้างชื่อเสียง จึงเป็นส่วนสำคัญในเรื่องนี้  ทำอย่างไรให้คนเชื่อถือไว้วางใจ และเกิดการกระทำในสิ่งที่ผู้นำ จูงใจให้กระทำ
                4.ผู้บริหาร ต้องเรียนรู้อย่างไม่หยุดหยั้ง เนื่องจากยุคปัจจุบันเป็นยุคแห่งการเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นผู้บริหาร ต้องรู้จักเรียนรู้สิ่งต่างๆ  ไม่ว่าเทคโนโลยี  การหาข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ใหม่ๆ  ดังนั้นการไปดูงานต่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญทำให้เห็นสิ่งใหม่ๆแล้วกลับนำมาใช้ในองค์กร ในหน่วยงาน ในประเทศของตน
5.ผู้บริหารที่ดี  มักจะเลือกงานที่ตัวเองทำแล้วสนุก อีกทั้งยังตรงกับเป้าหมายในชีวิต ความสามารถในตัวเอง  การเลือกอาชีพในการทำงานจึงถือว่าสำคัญมากในการที่คนๆ นั้น จะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บริหาร ดังนั้น การเลือกงานที่ชอบจึงสำคัญกว่าเลือกงานเพราะมีเงินเดือนมาก หรือได้เงินตอบแทนมาก โดยที่ตนเองอาจไม่ชอบงานนั้นๆ
6.ผู้บริหารต้องทำงานโดยใช้วิธีที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต                ลักษณะงานการบริหารในปัจจุบันมีความแตกต่างจากงานบริหารในอดีต อาจกล่าวได้ว่ามีความแตกต่าง ดังนี้ 
                6.1.ผู้บริหารต้องทำงานหนัก เนื่องจากมีภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น และต้องทำงานให้เสร็จ จึงทำให้ในแต่ละวัน ผู้บริหารต้องแก้ปัญหามากขึ้น มีความเครียดในการทำงานมากขึ้นกว่าผู้บริหารในอดีต 
                6.2.ผู้บริหารต้องมีความสามารถหลากหลาย เนื่องจากการทำงานในยุคปัจจุบันผู้บริหารต้องทำงานและทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การเจรจาต่อรอง   งานด้านเอกสาร  การเป็นประธานในงานต่างๆ   การประชุม  การกล่าวปราศรัยในงานต่างๆ 
                6.3.ผู้บริหารต้องทำงานร่วมกับสื่อมวลชนทุกประเภทมากขึ้น  การบริหารองค์การในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันสูง ผู้บริหารจึงต้องเป็นนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์  บางสถานการณ์จะต้องถูกสัมภาษณ์จากสื่อสารมวลชน 
                6.4.ผู้บริหารต้องทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารมาก  ในยุคปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร
                สรุปแล้วการเป็น ผู้บริหาร เป็นทั้งศาสตร์ที่สามารถเรียนกันได้ เป็นทั้งศิลป์ คือ นำมาประยุกต์ได้
โดยไม่จำกัดว่าเกิดในสถานะภาพใด ไม่ว่า ยากดี มีจน เป็นลูกมหาเศรษฐี  ไม่ว่ายากดี มีจน คนเราก็สามารถเป็น ผู้บริหารที่ดีได้ 

สถาบันพัฒนาบุคลากร ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์http://www.oknation.net/blog/print.php?id=432290